เหตุปะทะ "ซูดาน" มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน เจ็บกว่า 3,500 คน
การสู้รบในซูดานยังดุเดือด แม้ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มบังคับใช้
เมื่อวานนี้ 21 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา ภาพมุมสูงของกรุงคาร์ทูม เผยเห็นควันลอยปกคลุมทั่วเมือง ส่วนเสียงปืนยังคงดังขึ้นเป็นระยะ ๆ แม้ว่าจะเข้าสู่ชั่วโมงหยุดยิงตามข้อตกลงที่กองทัพซูดาน และกองกำลัง RSF ประกาศแล้วก็ตาม ส่วนอีกภาพแสดงให้เห็นควันสีดำจากการโจมตีที่ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้อาคารตามมา เหล่านี้คือข้อบ่งชี้ว่า ข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงไม่เป็นผล และการสู้รบยังคงเกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นช่วงวันอีด วันสำคัญทางศาสนาอิสลามก็ตาม
โดยรูปภายหนึ่งถ่ายจากสมาร์ทโฟนของชาวซูาน จุดสีดำ ๆ ทางด้านขวาบนของภาพคือกลุ่มทหารที่ชาวบ้านระบุว่า พวกเขายังคงออกมาลาดตระเวนและค้นหาศัตรูฝ่ายตรงข้าม บรรยากาศในภาพรวมของวันอีดที่ผ่านมา กรุงคาร์ทูมค่อนข้างเงียบเหมือนเมืองร้าง เพราะผู้คนกลับที่จะออกจากบ้าน แตกต่างจากการฉลองวันอีดในประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามชาวซูดานในกรุงคาร์ทูมจำนวนหนึ่งยังคงออกมาทำพิธีกรรมทางศาสนาร่วมกันเนื่องในวันอีด วันสุดท้ายของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน แม้สถานการณ์การสู้รบจะไม่สงบและรู้ว่าการออกจากบ้านมีความเสี่ยงก็ตาม
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ปรากฏภาพของประชาชนที่สนับสนุนทหารออกมาเดินขบวน ร้องตะโกนสนับสนุนกองทัพที่พวกเขาคาดหวังให้เป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ มีเสียงจากชาวบ้านที่เล่าความรู้สึกว่า วันอีดปีนี้แตกต่างออกไป เพราะเต็มไปด้วยเลือดและการสูญเสีย ขณะที่บางคนระบุว่า เป็นวันอีดที่แย่ที่สุดเพราะการสู้รบทำให้พวกเขาไม่ได้พบหน้าครอบครัว
ทั้งกองทัพซูดาน และกองกำลัง RSF ต่างโทษอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุของการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เช่นเดียวกับข้อตกลงหยุดยิงสองครั้งก่อนหน้าที่เคยประกาศออกมา การสู้รบที่ยังดำเนินต่อไปทำให้ชีวิตของประชาชนยังคงลำบาก พวกเขาไม่มีทั้งกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ขณะที่อาหารและสินค้าจำเป็นก็ปรับราคาพุ่งสูงขึ้น รวมถึงยังหายากขึ้นอีกด้วย
มีรายงานว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีชาวซูดานอพยพออกจากกรุงคาร์ทูมไปแล้วหลายพันคน พวกเขาอพยพไปยังต่างเมืองหรือข้ามพรมแดนเข้าไปในชาด ประเทศเพื่อนบ้าน ที่ก่อนหน้านั้นระบุว่า รับผู้อพยพชาวซูดานแล้วมากถึง 20,000 คน
ด้านความเสียหายจากการสู้รบที่ดำเนินมาครบหนึ่งสัปดาห์ในวันนี้ เมื่อวานมีรายงานจากองค์การอนามัยโลกตั้งโต๊ะแถลงจากสำนักงานใหญในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า การสู้รบตลอด 6 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 413 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีอย่างน้อย 3,551 ราย ตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่การสู้รบยังไม่ยุติคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ความน่าสนใจของการแถลงเมื่อวานยังมีประเด็นเรื่องทุพภิกขภัย หรือการขาดแคลนอาหารจากองค์การยูนิเซฟด้วย เจมส์ เอลเดอร์ โฆษกของยูนิเซชี้ว่า ซูดานเผขิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหารอยู่แล้วเป็นทุนเดิม และขณะนี้ทางองค์กรประเมินว่า มีเด็ก ๆ มากถึง 50,000 คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้รวมถึงทางองค์กรยังแสดงความกังวลถึงเด็ก ๆ ที่มีภาวะขาดสารอาหารรุนแรงและต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการสู้รบกระทบต่อโรงพยาบาลหลายแห่งทำให้ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยต่อได้ ข้อกังวลเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่โครงการอาหารโลกกังวลว่า ผลของการสู้รบอาจทำให้คนนับล้านในซูดานเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนอาหาร
หนึ่งสัปดาห์แล้วที่หลายเมืองของซูดานกลายเป็นสนามรบระหว่างกองทัพและกองกำลัง RSF นานาชาติเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับแผนการอพยพพลเมืองของตนออกจากซูดาน ขณะนี้มีสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสเปนที่มีรายงานข่าวออกมา
รายงานจาก ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ล่าสุดทางกองทัพสหรัฐฯ ส่งทหารไปยังฐานทัพที่ใกล้กับซูดานมากที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนอพยพพลเมือง คาดกันว่าปัจจุบันมีพลเมืองชาวอเมริกันราว 19,000 คนที่ยังอยุ่ในซูดาน
ทั้งนี้แผนการอพยพของสหรัฐฯ มีกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสรวมปรึกษาหารือด้วย เนื่องจากทั้งสองชาติต้องการอพยพพลเมืองเช่นกัน
โดยฐานทัพของสหรัฐฯ ที่ใกล้กับซูดานมากที่สุดตั้งอยู่ในจะงอยแอฟริกา ไม่มีพรมแดนติดกับซูดาน และห่างจากซูดานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 1,600 กิโลเมตร จิบูตีเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใช้สำหรับปฏิบัติการทางทหารในทวีปแอฟริกาและในตะวันออกกลางมานานกว่าสิบปีแล้ว อีกประเทศที่มีฐานทัพใหญ่ในจิบูตีคือ ฝรั่งเศส ที่ขณะนี้เข้าร่วมแผนการอพยพกับสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ปรากฏภาพของทหารเกาหลีใต้ที่ประจำการในฐานทัพของเมืองปูซาน เตรียมที่จะบินไปยังฐานทัพของสหรัฐฯ ในจิบูตี เพื่อดำเนินการตามแผนอพยพพลเมืองเช่นกัน ตามมาด้วยญี่ปุ่นที่เพิ่งส่งเครื่องบินทหารไปสองลำในวันนี้ โดยระบุว่าเพื่อใช้รับพลเมืองญี่ปุ่นในซูดานที่มีจำนวน 63 ราย
ปิดท้ายที่สเปน มีรายงานจาก โฮเซ มานูเอล อัลบาเรส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เครื่องบินทหารของสเปนขณะนี้อยู่ในโหมดเตรียมพร้อมที่จะอพยพพลเมืองชาวสเปนจำนวน 60 ราย รวมถึงพลเมืองของประเทศอื่นๆ ที่ยังอยู่ในซูดานอีกราว 20 ราย ส่วนในเวลานี้ทางรัฐบาลได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบ ๆ สถานทูตสเปนเป็นพิเศษ