ประวัติ “ถนอม สามโทน” อดีตสมาชิกวงดัง เจ้าของเพลงฮิต “เจ้าภาพจงเจริญ”
รดน้ำศพ “ถนอม สามโทน” เศร้า! ภรรยาร่ำไห้ ดูแลกันจนวินาทีสุดท้าย
การจากไปของ “ถนอม สามโทน” วัย 63 ปี เสียชีวิตช่วงเช้าวันที่ 30 มี.ค.2566 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังเข้ารักษาตัวป่วยโรคมะเร็งตับ ซึ่งมีคนในวงการบันเทิงและแฟนๆ ที่ติดตามผลงานอาลยัรักเป็นจำนวนมากคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
โดยครอบครัวได้เคลื่อนร่างไปประกอบพิธีที่วัดนวลจันทร์ กรุงเทพฯ และในพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งทาง “จุ๋ม สุกัญญา” ภรรยา รวมไปถึง “ธงชัย ประสงค์สันติ” และ “บุ๋มบิ๋ม” เพื่อนวง ‘สามโทน’ ได้เปิดใจว่า
ธง : “ถนอมเขาเกิดวันที่ 11 สิงหาคม ถ้าเขายังอยู่ก็จะครบ 63 พอดี แต่ไปเสียก่อน เมื่อวานผมไปเยี่ยม แขน หน้าตายังดูเต้งตึงตลอดเวลา แต่ยังอยู่ในเครื่องช่วยหายใจ ที่ผ่านมาผมกับบุ๋มบิ๋มรับรู้มาตลอดถึงการรักษา รู้ว่าเขาคีโมมากี่ครั้ง อะไรยังไงบ้าง เราบอกเลยว่าถนอมสู้มาก ร่างกายก็ปกติ เขายังสามารถทำงานได้ ไปถ่ายละครได้ ออกกำลังกายได้ เขาก็ดูสดใส เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เราได้คุยกันเขาก็บอกว่าเขาอยากได้กำลังใจ”
บุ๋มบิ๋ม : “ก็บอกว่าคิดถึง อยากจะไปกอด ไปหอมแก้ม ก็ยังขำๆ กัน แล้วเขาก็มาจากไป ก็ช็อกพอสมควร มันกะทันหัน เราไม่นึกว่าเขาจะจากไปเร็วขนาดนี้ ในส่วนลึกในใจ ความหวังของเราทั้งหมดคืออยากให้เขาตื่นลืมตาขึ้นมาพูดคุยกับเรา นั่นคือความหวังของเรา เขาก็จากไปอย่างสงบ ไม่ได้มีอาการเจ็บปวดใดๆ”
ที่ผ่านมาการรักษาก็เป็นไปด้วยดี?
จุ๋ม สุกัญญา : “เรามีความหวัง เขาให้คีโมครบหมด ไม่มีเอฟเฟคอะไรทั้งสิ้น ไม่เจ็บ ไม่แพ้อะไรเลย ให้เสร็จ ขับรถทำงานได้ปกติ”
บุ๋มบิ๋ม : “เราไม่รู้สึกว่าเขาป่วยด้วยโรคร้ายใดๆ เลย เพราะเขายังดูแข็งแรง ไปถ่ายละครได้ ออกกำลังกายได้ ไม่มีวี่แววของความอ่อนแอปรากฎให้เห็น”
มีคำสั่งเสีย?
ธง : “เท่าที่ผมรู้สึกก็คือ ที่บุ๋มบิ๋มโทรมาบอกว่าถนอมอยากได้กำลังใจ วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พอบุ๋มบิ๋มคุยเสร็จก็หัวเราะแล้วโทรมาหาผม ว่ามันหัวเราะนั้นนี่ แต่พอคุยกับผมก็จะอีกแบบนึง บอกว่าอยากได้กำลังใจ ตอนนี้มันเป็นยังไง มันเจ็บตรงไหน ผมก็ไม่รู้จะพูดให้กำลังใจยังไง ก็อดทนเอา มันเจ็บมันปวดตรงไหน ใช้ลมหายใจเหมือนพุทธโธเอานะ เรานึกถึงพ่อเอา ร่างกายเราก็ใช้มาเยอะแล้ว มันเจ็บตรงไหนก็พุทธโธ เอาลมหายใจไปวางตรงนั้น แล้วก็แผ่ให้เขาไปเลย ในใจผมอยากให้เขาบวชถ้าเขาหาย เขาจะได้ทำบุญกับก้อนเนื้อร้ายนั้น อาจจะมีวาสนาอายุอยู่ต่อไปอีกกี่ปี ก็บอกเขาว่าบอกก้อนเนื้อร้ายนั้นไปเลยถนอมว่าให้อยู่ทำบุญไปด้วยกัน แต่ขอให้หาย เมื่อวานไปหาจุ๋ม เขาก็แปลกใจ ว่าถนอมบอกว่าอยากจะบวช ผมดีใจมากเลย ผมเลยตะโกนบอกไปว่า 1-2 วันนี้ตื่นขึ้นมานะ จะพาไปกินข้าว คิดจะบวชก็ดีแล้ว พวกเราจะได้ไปใส่บาตร ยังแซวเขาว่าเดี๋ยวหาวัดทางเหนือให้ บีบตัวเขาก็ยังเหมือนปกติทุกอย่าง สีผิวก็เหมือนปกติ เขายังหายใจเองได้บ้างแม้ว่าจะใส่เครื่องช่วยหายใจ บางทีผมยังรู้สึกว่าเขารับรู้เลย”
การให้คีโมก้อนเนื้อยุบลงบ้าง?
จุ๋ม สุกัญญา : “ยุบลงค่ะ มันแค่สงบ ไม่ได้ลามแต่ก็ไม่รู้ว่ามันยังไงตรงไหน พี่เขาสู้ กำลังใจเขาดี เขาคิดว่าเขาจะหายอย่างเดียวเลย เขาทำทุกอย่าง เข้มแข็ง ออกกำลังกาย ดูแลอาการ เขาทำทุกอย่าง เขาไม่เคยอ่อนแอให้เห็นเลย ตรวจเจอตอนพฤษภาคม 2565 รักษามาเกือบปีแล้ว ก็ยังทำงาน ยังถ่ายละคร ไปเที่ยว ออกไปทานข้าว รักษาตั้งแต่มิถุนายนถึงมกราคม คือครบคอร์ส ในช่วงนั้นก็ยังทำงานยังอะไรได้นะคะ”
ธง: “ไปถ่ายละคร ไปทานข้าว ไปเที่ยว ลูบหยอกหัวกัน ขับมอเตอร์ไซค์ แล้วก็โทรแซวกันไปแซวกันมา ทำงานเสร็จเลิกกองผมก็เหนื่อย เขาก็บอก เฮ้ย พี่ช่วยดูเขาด้วยนะ ผมก็คิดว่าด้วยอายุก็เหนื่อยไว ก็เลยคิดว่าดูๆ หน่อยนะ อย่าให้พี่เขาเล่นอะไรมากนัก”
ทราบเมื่อไหร่ว่า “ถนอม” ป่วย?
ธง: “ก็รู้จากคุณจุ๋มภรรยาเขานี่แหละ เราก็ให้กำลังใจตลอดเวลา แล้วเราก็เคารพในการรักษาของเขา เราไม่ไปก้าวก่าย คือบางทีเราก็ได้แต่โทรให้กำลังใจกัน รอว่าถนอมจะบอกเมื่อไหร่อะไรยังไงกับเราดีกว่า เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วก็มีงานหลายงานติดต่อเข้ามา เราก็บอกว่าให้ถนอมเป็นคนตัดสินใจ เพราะว่าประโยคนี้ เราไม่เข้าใจ เขาบอกเขาไม่ค่อยมั่นใจ เขาบอกเขาไม่ค่อยมั่นใจที่จะไปยืนร้องเพลงด้วยกันแล้ว (เขารู้ว่าตัวเริ่มจะไม่ไหวแล้ว?) ใช่ครับ”
บุ๋มบิ๋ม: “ผมคิดว่าจากภาวะโรคร้ายของเขา มันมีผลต่อสภาพจิตใจมาก เพราะว่ามันบั่นทอน ผมเองไม่เคยเป็น แต่ว่าหลาย ๆ คน ที่เคยเป็นผมใกล้ชิดและผมรู้จัก โรคร้ายชนิดนี้บั่นทอน เพราะฉะนั้นสุขภาพจิตต้องเยี่ยมมาก เข้มแข็ง ถนอมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เข้มแข็งคนหนึ่ง แต่ก็มีบางช่วงบางห้วงเวลา เป็นธรรมดาของคน ที่กังวลว่าชีวิตของตัวเองจะจากไป ทุกคนอยากมีชีวิตอยู่กับคนที่รักกับทุกคน ไม่อยากจากไป แต่มีอยู่อันหนึ่งที่ผมได้สัมผัสจากถนอมก็คือ จนถึงจังหวะสุดท้ายของชีวิตเลย เขาไม่ได้สร้างห่วงสร้างภาระให้กับคนรอบข้างเขา แม้กระทั่งกองถ่ายละคร เขาก็ไปถ่ายจนเสร็จสรรพ ปิดคิวของเขาเองได้ทั้งหมดทุกกอง
ผมก็ฝากขอบคุณทุก ๆ คนที่ส่งกำลังใจให้เขา แล้วก็ส่งแรงใจให้กับครอบครัว ผมเองก็ได้เรียนรู้จากการจากไปของเขาว่า วันหนึ่งผมก็จะไม่ต่างจากเขา ก็พร้อมที่จะจากไปเช่นกันนะครับ ในมุมของผมคือ อยากขอบคุณคุณถนอมครับ ผมดีใจและภาคภูมิใจ ที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนคนนี้นะครับ มิตรภาพของเราจะยังคงอยู่นะครับ แล้วก็แฟนทุกคน จะได้เห็นจะได้สัมผัสจากผลงานที่เรามีอยู่บนโลกใบนี้นะครับ เปิดดู คิดถึง เปิดดู ยิ้ม หัวเราะ นั่นคือเรา นะครับ ขอบคุณมากครับ”
เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกันมามากกว่าครึ่งชีวิต?
ธง: “ใช่ สามโทนก็ 30 กว่าปีแล้วอ่ะ 30 กว่าปีอ่ะ บุ๋มบิ๋มอยู่คีตาฯ เป็นโปรดิวเซอร์เป็นผู้กำกับ ให้พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ทำรายการธงชัยเป็นเอ็กซ์ตร้าตัวประกอบคนหนึ่ง ที่พี่จิกตามมา ได้มาเจอถนอมเอาเพลงมาขาย นั่งอยู่หน้าคีตาฯ มาขายเพลง เพลงฉันเอง ไอ้นี่เอาน้ำตาฟ้ามาจากหมอหวัง มาเจอกัน โห มัน มัน..”
บุ๋มบิ๋ม: “เรื่องราวความผูกพันมีเยอะมากครับ มีหลายแง่มุม เราเองเรียกได้ว่ามาพร้อมกัน จุติพร้อมกันในวงการบันเทิง เราได้ทำสิ่งที่เรารักร่วมกัน เพราะฉะนั้นมิตรภาพมันเกิดขึ้น งอกงามนะครับ เราผ่านเวลามา มันอยู่ในความทรงจำเราเสมอ เหตุการณ์ครั้งนี้เราเสียใจ แล้วก็รู้สึกสูญเสีย แล้วก็คิดว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนให้กับเรา เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าการจากไปมันเป็นเช่นไร แล้วก็ทำอย่างไรให้คนรอบข้างที่เขายังอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องมีภาระ”
บอกลา “ถนอม”?
บุ๋มบิ๋ม: “สำหรับผมนะครับ ถนอมยังอยู่ในใจผมเสมอนะครับ แล้วก็ผลงานทุกชิ้น ภาพเราและทุกอย่าง ยังอยู่คงเดิมนะครับ มิตรภาพคงอยู่นิรันดร์”
ธง: “ผมเนี่ย ในหัวนี้ก็มีความรู้สึกว่ามันมีแต่ภาพ มันมีอะไรที่มันวนอยู่ในหัว ไม่รู้จะบอกถนอมมุมไหนดี เพราะมันมัวไปด้วยกันหมดเลย มันมีทุกจังหวะของชีวิตที่เราเผชิญด้วยกัน ก็ขอให้เพื่อนถนอมไปสู่สสวรรค์ ไปสู่ภูมิภพที่ถนอมปรารถนา วันนี้ผมก็เห็นเขามีงาน ผมรู้สึกว่าเขาสะอาด และเขาก็สมบูรณ์มาก ต้องพูดคำว่าสมบูรณ์นะทั้งภายนอกและจิตใจของเขา มางานเขาแล้วมันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าเพื่อนได้ทำทุกอย่างสมบูรณ์เต็มที่แล้ว”
จุ๋ม สุกัญญา: พี่เขาก็คือที่สุดค่ะ ที่สุดแล้วอ่ะค่ะ ภูมิใจที่ได้มาเป็นคู่ชีวิต ดูแลกันจนถึงวินาทีสุดท้าย”